วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หากินกับพระศาสดา วัตรปฏิบัติของนาป่าพง





ข้าพเจ้าเคยเข้าไปในร้านหนังสือ ตามเซเว่น เคยสงสัยเหมือนกันว่า การเขียนหนังสือธรรมะขายเป็นการหากินกับพระศาสดาหรือไม่  ข้าพเจ้ายืนพิจารณาเนื้อหาของหนังสือเล่มต่างๆ  เห็นว่า  หนังสือทุกเล่ม ล้วนเขียนขึ้นจากความเข้าใจของผู้เขียนเพื่อแบ่งปัน อธิบายธรรมที่พระศาสดาทรงแสดงไว้  ข้าพเจ้าจึงฟันธงว่า หนังสือเหล่านั้นคือ “งานอันมีลิขสิทธิ์” เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่งตามกฎหมาย  ซึ่งกลั่นกรองออกมาจากปัญญา โดยผู้เขียนใช้ความเพียรในการเขียนขาย

การนำหนังสือไปแลกกับเงิน ไม่ว่าจำนวนจะมากหรือน้อย เรียกอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก “ขาย”

เมื่อข้าพเจ้าพิจารณาได้ดังนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็เกิดความสงสัยอีกว่า  แล้วการหากินกับพระศาสดาเล่า เป็นอย่างไรหนอ

จนเมื่อข้าพเจ้ามาพบพฤติกรรมของวัดนาป่าพง ภายใต้โลโก้ “พุทธวจน” ข้าพเจ้าถึงบางอ้อทันที

ต่างกันที่  พวกหนึ่งกลั่นกรองคำอธิบาย คำพูด มาจากสติปัญญาตนเอง แม้หากจะขัดกับคำพระศาสดา ทำให้พระสัทธรรมปฏิรูป อบายก็จะได้แก่พวกเขาเอง เขาซื้ออบายด้วยกำไรที่ได้มาจากการขายหนังสือของเขา

ส่วนอีกพวกหนึ่ง เอาคำพระศาสดาจากพระไตรปิฎก “ลอกมา” ใช้ความเพียรในการ “ลอก” แล้วเอามาขาย  ขายบ้างแจกบ้าง ส่วนที่แจกก็เป็นเพื่อป้องกันการครหาว่าขาย แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นการขายไปได้อยู่ดี จะขายบ้าง แจกบ้าง ส่วนที่ขายก็คือสัจจะว่าขาย จะให้เปลี่ยนสัจจะนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย  หลายๆ ท่าน ข้าพเจ้าเห็นแจกจริง ไม่มีวางขาย ใครอยากได้ต้องไปขอกับตัวของผู้เขียน หรือสำนักของผู้เขียน เงินที่นำมาพิมพ์แจกคือเงินที่ผู้เขียนได้มาจากการบริจาคของผู้ศรัทธาและรายได้ของผู้เขียนเอง   ส่วนสำนักนาป่าพง มีรายได้จากการทอดกฐินปีละเท่าไหร่  ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบยอด เพราะไม่เคยเห็นการประกาศรายได้  แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ถ้าท่านคึกฤทธิ์จะนำมาพิมพ์แจก น่าจะทำได้ 



สาวกท่านคึกฤทธิ์เองยังดูออกว่าเขาขายคำแต่งใหม่  คำแต่งใหม่นั้นได้มาจากสติปัญญาของเขา  ไม่ใช่จากการ “ลอก” คนอื่นมาขาย อันเป็นการกระทำที่น่าอับอายแบบท่านคึกฤทธิ์



นอกจากนี้  ท่านและสาวกของท่านยังกระทำการอันเป็นการเนรคุณผู้อื่น ด้วยการด่าผู้อื่นสารพัดด่า อย่างเช่นด่าเจ้าคุณประยุตว่า “กลับไป กลับมา” จิกหัวเรียกท่านว่า “ภิกษุวัดญาณเวศกวัน” แต่สาวกของท่าน (ของท่านแน่นอนเพราะข้าพเจ้าเห็นสาวกคนนี้ในคลิปบ่อยๆ ใช้ชื่อว่า “ครูโจ”) กลับนำเอาพจนานุกรมเจ้าคุณประยุตมาใช้อธิบายศัพท์บาลีที่ตนเองไม่มีความสามารถที่จะแปล  (เรื่อง ครูโจ กับการกล่าวตู่ภาษาบาลี อวดตนว่ารู้ภาษาบาลีนี้ข้าพเจ้าจะจัดให้เป็นลำดับต่อไป)

สิ่งที่ท่านมักจะทำตลอดมาคือ ด่าคนอื่นว่าผิด โดยที่ท่านไม่เคยสามารถยกข้อผิดพลาดของเขาออกมาได้เลย ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นท่านหยิบหนังสือเล่มไหนที่ว่าผิดออกมาแสดงข้อถูกให้ประชาชนเห็นด้วยหลักฐานและหลักวิชาการเลย ข้าพเจ้าเห็นแต่ท่านยกหนังสือของท่านอธิบายธรรมตลอดเวลา  ด่าเสร็จแล้วขายหนังสือ  พบมากมายในคลิปต่างๆ ของท่าน แม้จะไปแสดงธรรมที่ไหน ก็จะหันหนังสือออกหากล้องเสมอ  การหากกินกับพระศาสดา คือวัตรปฏิบัติของท่านและสาวกของท่านหรือไม่  เป็นคำถามที่ท่านต้องตอบแก่ประชาชนเป็นลำดับต่อไป

พุทธวจนปิฎก ของท่านได้ใช้ความเพียรในการชำระด้วยผู้ทรงคุณวุฒิอย่างพระไตรปิฎกมหาจุฬา มหามกุฎ ในพระบรมราชูปถัมภ์ , ราชินูปถัมภ์  อย่างเขาหรือยัง ถึงกล้า “ขาย”

ควรหรือไม่  ที่จะ “ลอก” งานพระศาสดาแล้วนำมา “ขาย” ขายก็บอกว่าขาย ไม่ใช่ขายแล้วบอกว่าไม่ขาย มุสาเป็นอาจิณคืองานของสาวกท่านใช่หรือไม่ ?

ไม่มีความคิดเห็น: