วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โสดาบันดื่มเหล้าได้ สัทธรรมปฏิรูปของนาป่าพง โดย พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล


ท่านคึกฤทธิ์สอนสาวกอย่างไร ให้เข้าใจอย่างนี้ ถ้าท่านมีความสามารถในการถ่ายทอดคำพระศาสดาให้คนเข้าใจผิดถึงเพียงนี้ แสดงว่า ท่านถ่ายทอดคำพระศาสดาโดยไม่บริสุทธิ์ ไม่บริบูรณ์  หรือ อธิบายเองตามความคิดเห็นของภิกษุปุถุชนที่ยังมีกิเลสหน้า หรือโดยอาศัยอนุสัยที่นอนเนื่องมาในการทำความเข้าใจและถ่ายทอดออกไป

“พระรูปนั้น กินเหล้าแต่เข้าใจธรรมแสดงว่าเมาแต่ไม่ขาดสติ จึงฟังธรรมและเข้าใจและเป็นโสดาบันได้”

จากความเห็นนี้ ทำให้เห็นว่า สาวกของท่านเข้าใจผิดๆ อันเกิดมาจากการสอนผิดๆ ของท่าน


โสดาบัน ดื่มเหล้าได้ แต่ต้องไม่ผิดสัมมาวาจา เพราะในอกุศลกรรมบถ ๑๐ ไม่มีข้อดื่มสุรา  พอโดนไล่ถามไปมากๆ เข้า ท่านก็จนแต้ม แล้วบอกว่า “อาตมาวิเคราะห์ให้เฉยๆ”  ท่านเอาสิทธิอะไรมาวิเคราะห์คำพระศาสดา  คำวิเคราะห์ของท่าน แย้งกับคำพระศาสดา ดังนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย การดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันบุคคลเสพแล้ว  เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งการดื่มสุราและเมรัยอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์ ฯ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

พระโสดาบัน เป็นผู้เที่ยงต่อพระนิพพาน ไม่มีความตกต่ำ (ไม่เกิดในทุคติภูมิ)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  สัตว์บางพวกในโลกนี้ เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.

พระโสดาบันนั้น แม้แต่ความคิดจะดื่มเหล้ายังไม่มีเลย

สำหรับปุถุชนที่จะบรรลุโสดาบัน ต้องมีสติในการฟังธรรม ไม่ใช่เมาไปฟังธรรม ท่านไปเอากรณีศึกษานี้มาจากที่ไหน  เป็นเรื่องที่ท่านต้องตอบ

ท่านสันตติอำมาตย์ ได้รับลาภจากพระราชา ให้ใช้ชีวิตอย่างพระราชาได้ ๗ วัน ประกอบพร้อมด้วยสุราและนารี  ท่านสันตติอำมาตย์ ชอบใจนางรำอยู่คนหนึ่ง ครั้นเมื่อนางรำอยู่แล้วล้มลงขาดใจตาย ท่านสันตติหายเมาในทันใด ถึงแก่โสกปริเทว (หวังว่าท่านคงไม่แปลว่า เทวดาคราวเดียวเศร้า) และนึกถึงพระศาสดาว่า ใครๆ ก็บอกกันว่า ผู้ที่เศร้าโศก เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้วจะหายเศร้า เราจะไปเข้าเฝ้าพระศาสดา

เมื่อท่านสันตติอำมาตย์ได้ฟังธรรมบทว่า  กิเลสเครื่องกังวลใด มีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้นให้เหือดแห้งไป กิเลสเครื่องกังวล จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง, ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ ในท่ามกลาง จักเป็นผู้สงบระงับ เที่ยวไป."  ท่านสันตติอำมาตย์ก็ถึงการบรรลุความเป็นพระอรหันต์  นี่คือกรณีศึกษาจากอรรถกถา แล้วกรณีศึกษาของคึกฤทธิ์กถาอยู่ไหน  

ท่านไม่ต้องฟังอรรถกถา  ไม่ต้องเชื่ออรรถกถา     แต่ช่วยหากรณีศึกษาของตนเองมาแสดงให้สมน้ำสมเนื้อกับการที่ท่านกล่าวปรามาสพระอรรถกถาจารย์หน่อยเถิด 
นอกจากบาลีโคกแล้วยังอรรถกถาโคก อีกต่างหาก

ข้าพเจ้าขอท้าโสดาบันสำนักนาป่าพง 
ใครเป็นโสดาบันช่วยติดต่อข้าพเจ้าที เหล้า น้ำแข็ง โซดาฟรี แถมเด็กเสริฟนุ่งน้อยห่มน้อย ช่วยมาดื่มเหล้าอย่างมีสติแล้วฟังธรรมให้ดูที หมดเติม หมดเติม ไม่อั้น ไม่จำกัดยี่ห้อ

ข้าพเจ้าจะรอถ่ายคลิป "โสดาบันแห่งสำนักนาป่าพง เมาเหมือนหมา"             


ไม่มีความคิดเห็น: