วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฉ้อโกงประชาชน ความผิดอาญาแผ่นดินกรณีเสาอโศก





พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล กำลังกระทำการฉ้อโกงประชาชนอยู่หรือเปล่า

จากการที่ท่านได้กล่าวถ้อยคำอันเป็นเท็จว่า  “เสาอโศกบันทึกพุทธวจน”  แล้วนำคำโฆษณาเช่นนั้นมาใช้ในการโปรโมทหนังสือของท่าน โดยเฉพาะพุทธวจนปิฎก ที่ท่านกล่าวยืนยันว่า มีแต่คำจริง ส่วนพระไตรปิฎกมีคำปลอมผสมอยู่ด้วย  ถ้านายกเป็นโยมอุปฐากท่าน ท่านจะให้นำพระไตรปิฎกออกให้หมดแล้วให้ใช้พุทธวจนปิฎกแทน

นอกจากท่านจะกล่าวจาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ องค์อุปถัมภ์การชำระพระไตรปิฎกในประเทศไทยแล้ว ท่านยังกล่าวคำเท็จหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ การหลอกลวงดังว่านั้น ทำให้ท่านได้รับลาภสักการะและได้ไปซึ่งทรัพย์สิน (การซื้อ) พุทธวจนปิฎกและหนังสือจากสำนักของท่าน จากผู้ถูกหลอกลวง  ท่านอาศัยถ้อยคำดังกล่าวหลอกลวงประชาชนผู้ขาดองค์ความรู้ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา  อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้

ขายของโดยหลอกลวง ตามมาตรา 271
มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 341 ประกอบ 342 และ 343
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความ อันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งและโดยการหลอก ลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สามหรือ ทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอนหรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 342 ถ้าในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทำ
(1) แสดงตนเป็นคนอื่น หรือ
(2) อาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรืออาศัย ความอ่อนแอทางจิตของผู้ถูกหลอกลวง
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 341 ได้กระทำ ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิด ความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะ ดังกล่าวใน มาตรา 342 อนุมาตรา หนึ่งอนุมาตราด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพัน บาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

 การที่ท่านจะพ้นข้อกล่าวหานี้ได้  ท่านจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ท่านมิได้หลอกลวง ด้วยการพิสูจน์ให้ได้ว่า เสาอโศกมีบันทึกคำว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย”  อันตัวท่านเองได้สร้างบ่วงผูกคอตนไว้แล้ว่า  คำว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย” หรือถ้อยคำในทำนองเดียวกัน ตามภาพนี้ เท่านั้นที่เป็นพุทธวจนะ 


ข้าพเจ้าจะนำประชาชนทั้งภิกษุและคฤหัสถ์เข้าดำเนินการกล่าวโทษตามกบิลเมืองแก่ท่านต่อพนักงานสอบสวน คดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ชะรอยถ้าท่านไม่สามารถพิสูจน์ได้ ท่านจักต้องดำเนินรอยตามเณรคำอย่างแน่นอน


บทเรียนนี้ จะสอนท่านคึกฤทธิ์ว่า  อย่ากล่าวว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า  และที่สำคัญ อย่ากล่าวดูถูกสาวกภาษิตในพระพุทธศาสนานี้  อย่าหมิ่นพระอริยะเจ้า อย่ายกตนเสมอด้วยพระอรรถกถาจารย์  เพราะทั้งหมดจะกลับเป็นธุรีที่ท่านซัดแล้วทวนลม  กลับมาทำร้ายท่านเอง

โย อปฺปทุฏฺฐสฺส นรสฺส ทุสฺสติ
สุทฺธสฺส โปสสฺส อนงฺคณสฺส
ตเมว พาลํ ปจฺเจติ ปาปํ
สุขุโม รโช ปฏิวาตํว ขิตฺโต ฯ


ผู้ใดย่อมประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย
ผู้เป็นบุรุษหมดจด ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน 
บาปย่อมกลับถึงผู้นั้นแหละ ผู้เป็นพาล
ดุจธุลีละเอียดที่บุคคลซัดทวนลมไป ฉะนั้น



ไม่มีความคิดเห็น: