พระเจ้าอโศกมหาราช
มีชีวิตอยู่ในราวปี พ.ศ. ๒๔๐ – ๓๑๒ ซึ่งขณะนั้น
ได้มีการสังคายนาพระไตรปิฎกด้วยการสวดขึ้นพร้อมกัน (ถ้าท่านนึกไม่ออก
ขอให้นึกถึงการท่องสูตรคูณพร้อมกันของนักเรียนในชั้นเรียน)
โดยนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าและเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระมหาเถระทั้ง ๕๐๐ รูป
โดยมีพระอุบาลี พระอานนท์ ทำการวิสัชนา (ตอบ) พระสูตรและพระวินัย ด้วยเหตุที่พระอานนท์เป็นพุทธอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค
จึงเป็นผู้ใกล้ชิดได้ฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคทั้งหมด แม้พระองค์ทรงแสดงธรรมที่ใดที่พระอานนท์มิได้ไปด้วย
มิได้อยู่ด้วย ก็จักทรงกลับมาตรัสให้พระอานนท์ฟังทุกครั้ง (หากท่านคึกฤทธิ์ปฏิเสธข้อความนี้
เท่ากับท่านปฏิเสธพระสูตรทั้งหมด เพราะพระสูตรทั้งหมดได้รับการบอกเล่าผ่านปากพระอานนท์)
ส่วนพระอุบาลี
เป็นพระอรหันต์ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะผู้ทรงพระวินัย
พระอุบาลีจึงเป็นผู้ทรงจำพระวินัยไว้ทั้งหมดอย่างแม่นยำ แต่ท่านกลับปฏิเสธปาฏิโมกข์ซึ่งพระอุบาลีวิสัชนาไว้ว่าให้ยกขึ้นแสดงจำนวน ๒๒๗ ข้อ
การทำสังคายนาครั้งแรกเกิดขึ้นภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ๓ เดือน
ที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ข้างเวภารบรรพต ใกล้กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย
ในพระราชูปถัมภ์ของพระเจ้าอชาตศัตรู โดยมีพระมหากัสสปเถระทำหน้าที่เป็นประธาน
และเป็นผู้คอยซักถาม มีพระอุบาลีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย
และมีพระอานนท์เป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อธรรม
การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระอรหันต์มาประชุมร่วมกันทั้งหมด ๕๐๐ รูป
ดำเนินอยู่เป็นเวลา ๗ เดือน จึงเสร็จสิ้น
ไม่ปรากฏการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในการสังคายนาครั้งนี้
ส่วนการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกเมื่อปี
พ.ศ. ๔๓๓ ที่อาโลกเลนสถาน ณ มตเลชนบท ในประเทศศรีลังกา องค์อุปถัมภ์คือพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย
การทำสังคายนาครั้งนี้เพื่อต้องการจารึกพระพุทธวจนะเป็นลายลักษณ์อักษรลงในใบลาน
ใช้เวลา ๑ ปี จึงสำเร็จ การจารลงในใบลานจารด้วยอักษรสิงหลของลังกาทวีป
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
จะเห็นได้ว่า การจารพระไตรปิฎกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกนั้น
เกิดขึ้นหลังจากที่พระเจ้าอโศกมหาราช เสด็จสวรรคตแล้ว
พระคึกฤทธิ์
โสตฺถิผโล กล่าวว่า
เสาอโศกเป็นที่บันทึกพุทธวจนะ
เอาที่ไหนมากล่าว หลักฐานอยู่ที่ไหน
ข้าพเจ้าเชื่อว่า ถ้าเรื่องนี้
กระจายไปในหมู่ชาวพุทธไทย คงมีชาวพุทธหลายท่านต้องการพิสูจน์คำของท่าน ด้วยการลงขันซื้อตั๋วเครื่องบินให้ท่านพาไปชี้เสาอโศกต้นที่มีการบันทึกพุทธวจนะ
ที่ท่านยืนยันอย่างขันแข็งว่า ถูกนำมารวบรวมไว้เป็น “พุทธวจนปิฎก” ของท่าน
อย่างแน่นอน ที่เหลือคือ ท่านกล้าหรือไม่ที่จะพิสูจน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น