ท่านคึกฤทธิ์ ที่ขบขันของชาวพม่า

ตามที่เราทราบกันอยู่แล้วว่า ประเทศพม่า เป็นประเทศที่ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเข้มข้น ทรงจำไตรปิฎกเลิศที่สุดในโลก ศึกษาภาษาบาลีด้วยระบบ “บาฬีใหญ่”

และศึกษาพระอภิธรรมอย่างเข้มข้น ในขณะที่พระเณรชาวพม่า จะใช้ทั้งชีวิตปกป้องพระไตรปิฎก อรรถกถา บูชาพระพุทธเจ้าอย่างสูงสุด พร้อมทั้งบูชาพระอริยะสาวกในพุทธกาลอยู่สูง

เมื่อพระเณรทางพม่าทราบข่าวว่ามีภิกษุชาวไทยชื่อ พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล กล่าวสอนประชาชนให้เหยียบย่ำพระไตรปิฎก อรรถกถา พระอภิธรรม และภาษาบาลี ซึ่งเป็นภิกษุคนเดียวและประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ปล่อยให้มีการเหยียดหยามพระไตรปิฎก อรรถกถา พระอภิธรรมและภาษาบาลี รวมถึงจาบจ้วงพระอรรถกถาจารย์  พระชาวพม่าจึงได้ส่งข้อความมายังข้าพเจ้าพร้อมด้วยภาพเพื่อเข้าเป็นแนวร่วมในการต่อต้านพระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล  ท่านเล่าให้ฟังว่า  ถ้าเป็นที่ประเทศพม่า หนังสือแบบนี้ (พุทธวจนปิฎก) จะถูกเผา วัดที่สั่งสอนประชาชนแบบนี้จะถูกปิด

ลูกเณรน้อยนักเรียนบาฬีใหญ่ประเทศพม่า ฟังพระอาจารย์เปิดโลกอินเตอร์เนตแล้วเล่าให้ฟังพร้อมทั้งให้ดูว่า พระชาวไทยรูปหนึ่ง ชื่อคึกฤทธิ์ คิดจะล้มพระไตรปิฎกและอรรกถารวมทั้งการเรียนภาษาบาลี โดยนำคัมภีร์ที่ตนแต่งขึ้น แปลผิดๆ สกิเทว เทวดาคราวเดียว เผยแผ่ไปทั่วโลกแทนพระไตรปิฎกที่เผยแผ่มาเป็นพันๆ ปี

ลูกเณรนำไปเล่าสู่กันฟังอย่างขำขัน

ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์  ทหารต่างชาติบุกเข้าประเทศพม่า แล้วขึ้นไปบนเจดีย์ชเวดากองโดยไม่ถอดรองเท้า ทหารและประชาชนชาวพม่า นอนลงบนลานเจดีย์ โดยไม่มีพื้นที่ว่างของลานให้ทหารชาวต่างชาติผู้รุกรานใส่รองเท้าเหยียบลานเจดีย์ได้เลย ศพแล้วศพเล่าที่ต้องตายลงเพราะปกป้องมหาเจดีย์ชเวดากองและพระบรมสารีริกธาตุ   ถ้าพระคึกฤทธิ์ใส่รองเท้าบิณฑบาตเหมือนที่ทำที่วัดของตน หรือใส่รองเท้าขึ้นพระมหาเจดีย์ชเวดากอง  พระคึกฤทธิ์และสาวกจะกองอยู่ตรงนั้นทันที

บทความนี้ จึงขอนำเสนอและเตือนท่านคึกฤทธิ์และสาวก จงอย่าได้ไปเหยียบประเทศพม่าเด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้ว ท่านอาจจะไม่ได้กลับมาบนผืนแผ่นดินไทยอีกเลย เพราะกองอยู่ ณ บริเวณไม่ไกลจากสนามบินนัก

ไม่ได้ขู่ แค่เตือนว่า อย่าดูถูกหัวใจรักของใครๆ  เท่าที่ผ่านมา ท่านเองก็ย่ำยีหัวใจรักในพระคัมภีร์ พระอริยะสาวก พระอรรถกถาของชาวพุทธไทยมากมายพอแล้ว

ท่านทำเกินไป ที่เที่ยวยัดเยียดข้อหาใครต่อใคร ว่าถ้าฟังคนอื่นคือไม่ศรัทธาพระพุทธเจ้า ท่านย้ายสมองจากเท้าขึ้นมาไว้ที่หัวแล้วค่อยคิด ก็คงไม่มีใครว่าท่านคิดช้าดอกนะท่านนะ