วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สงสารสาวกวัดนาป่าพง


นับตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗  จนวันนี้  ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗  ข้าพเจ้าเปิดประเด็นเสาอโศกโดยมองเห็นความสุ่มเสี่ยงว่า  พระคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล  จะมีเจตนาฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดอาญาแผ่นดินหรือมีความผิดฐานขายของโดยหลอกลวง  อันเป็นความผิดต่อแผ่นดิน ต่อกรณีการโกหกประชาชนว่าพุทธวจนะถูกจารึกไว้บนเสาอโศก และสืบต่อจนมาเป็นพุทธวจนปิฎก ที่ท่านพิมพ์จำหน่าย

จากวันนั้น ยันวันนี้  เป็นเวลา ๑๕ วัน  ข้าพเจ้าเฝ้ามองสาวกท่านคึกฤทธิ์  แทนที่จะหันกลับไปหาข้อมูลว่า เสาอโศกบันทึกพุทธวจนะจริงหรือไม่  และบันทึกไว้ที่เสาอโศกต้นไหน 

๑๕ วันผ่านไป  ท่านยังไม่เข้าใจประเด็น แค่คำถามง่ายๆ  “เสาอโศกต้นไหนบันทึกพุทธวจนะ”  ท่านกลับไปเข้าใจประเด็นว่า  “เสาอโศกเชื่อได้หรือไม่”  ยังคงเข้าใจผิดๆ เพราะหลงไปกับคลิปพระวัดเนินพระถามอาจารย์ท่านว่า เราจะเชื่อพุทธวจนะบนเสาอโศกได้อย่างไร 

ประเด็นที่ข้าพเจ้าถาม คนละประเด็นกับพระวัดเนินพระ 

ณ วันนี้ สังคมถามว่า  “เสาอโศกต้นไหนบันทึกพุทธวจนะ”
“แม่งูเอ๋ย  กินน้ำบ่อไหน
กินข้าวบ่อทราย
แถไปก็แถมา”

สาวกท่านคึกฤทธิ์ กลับเลือกเสพข้อมูลโดยปฏิเสธข้อมูลที่ปรากฏความจริง โดยข้อมูลต่างๆ ล้วนระบุว่า  เสาอโศก บันทึก “อโศกวจนะ”  หรือ  โองการพระเจ้าอโศก   ถ้าจะเปรียบเทียบง่ายๆ ก็คือลักษณะศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงของเรานี่เอง

โดยเนื้อหาของเสาอโศกทั้ง ๑๓ ต้น ที่ประเทศอินเดียและเนปาล  จารึกถึงการค้นพบสังเวชนียสถาน และสถานที่สำคัญที่ปรากฏตามคำบอกเล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่พุทธกาล  (ระยะเวลา ๒๐๐ ปี ยังไม่ไกลนักที่จะสามารถบอกเรื่องราวต่างๆ ผ่านปากมนุษย์ได้) และในจารึกเสาอโศกยังปรากฏโองการพระเจ้าอโศกที่สั่งไม่ให้ประชาชนทำการบูชายัญ ทรงเล่าเรื่องราวการปฏิบัติตนในพระพุทธศาสนาของพระองค์ไว้ให้คนรุ่นหลังฟัง  ถ้าจะเปรียบเทียบ ก็เหมือนนิราศต่างๆ ที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านบันทึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่าน ได้ศึกษา

ข้าพเจ้าเพียรบอกไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งหาคลิปให้ดู ให้ชม ให้ศึกษา   หวังว่า  พวกท่านจะกลับไปศึกษาข้อมูลและจะได้เข้าใจว่า อาจารย์ของพวกท่านแท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไร  แต่พวกท่านกลับไม่มีแม้สักคนที่จะกลับไปศึกษา ตรงกันข้าม กลับเลือกที่จะปฏิเสธข้อมูลที่แท้จริงและพยายามเฟ้นหาข้อมูลที่บอกว่า เสาอโศกบันทึกพุทธวจนะ  ซึ่งท่านจะไม่มีวันหาพบ เพราะความจริงคือ ไม่มี  อาจารย์ท่านโกหก

ข้าพเจ้าเมตตาโดยหวังว่า พวกท่านจะไม่นำความรู้ผิดๆ นี้ไปเที่ยวขยายต่อ หรือเที่ยวไปทะเลาะกับใครในเรื่องนี้ เพราะท่านอาจจะเข้าข่ายสนับสนุนหรือร่วมกันกระทำความผิดกับอาจารย์ท่านได้  แต่พวกท่านหาได้ไยดีไม่

ความเมตตาของข้าพเจ้าสูญเปล่า เมื่อวันนี้  สาวกอย่างพวกท่าน กลับนำเอาข้อมูลที่พื้นที่สุด ซึ่งข้าพเจ้าได้เขียนให้ความรู้ไว้ในบทความของข้าพเจ้าแล้วตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนมาคุยโตโอ้อวดกันเสียใหญ่  หมายจะเอาข้อมูลที่ได้ไปเที่ยวไล่ตีกับฝ่ายตรงข้ามอาจารย์ท่าน

ตกลงท่านจะกู้หน้าให้อาจารย์  หรือจะช่วยฝังอาจารย์ลงใต้พื้นปฐพีกันแน่หนอ

พวกท่านเคยอ่านหนังสือกันเกินวันละ ๔ บรรทัดหรือไม่  นอกจากอ่านข้อความที่สนทนาไร้สาระ หรือสุมหัวพิมพ์ข้อความนินทาชาวบ้านใช้เวลาให้ผ่านไปวันๆ 

เคยอ่านหรือรับเอาองค์ความรู้ใดๆ เข้าใส่สมองหรือไม่  นอกจากหลับตาพริ้มฟังสิ่งที่ท่านคึกอาจารย์ของท่านป้อนให้อย่างเดียว 

ป้อนผิดป้อนถูกก็ไม่รู้  ป้อนข้าวหรือหญ้าก็ไม่แจ้ง ป้อนอะไรมากินทั้งนั้น 

ท่านไม่อ่านไม่ศึกษา หวังแต่ว่าวันๆ จะเข้าไปนั่งหลับตาฟังอาจารย์ท่านอย่างเดียว  ถ้าอาจารย์ท่านมรณภาพไป ใครจะพูดให้ท่านฟัง  ถ้าพวกท่านยังขืนเสพข้อมูลกันแบบนี้  ท่านก็จะจมปลักอยู่อย่างนี้  ไม่มีวันจะตะกายขึ้นมาได้เลย  

ไม่มีความคิดเห็น: