วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความเข้าใจที่ผิดของพระคึกฤทธิ์และคณะศิษย์ต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ

ย้อนหลังกลับไปสักราวๆ ปีก่อน  พระคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล  ได้รับเกียรติจาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  ให้เข้าร่วมเสวนาวิชาการในเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า  บนเวทีแห่งนั้น มีวิทยากรร่วมกันหลายท่าน และมีพระเดชพระคุณพระศรีคัมภีรญาณ เป็นวิทยากรร่วมอยู่ด้วย และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน รวมถึงพระคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล ด้วย

พระเดชพระคุณพระศรีคัมภีรญาณมีมารยาทต่อท่านคึกฤทธิ์มาก ท่านยังเล่าให้ที่ประชุมว่าท่านคึกฤทธิ์ให้เกียรติมากที่มาร่วมเสวนาในวันนั้น และท่านยังเล่าว่า เคยสอนที่เสถียรธรรมสถานกับท่านคึกฤทธิ์  (ข้าพเจ้าเริ่มไม่แน่ใจว่า เสถียรธรรมสถานเป็นเหยื่อเสาอโศกด้วยอีกรายหรือไม่) และยังเคยฉันข้าวด้วยกัน

การเสวนาในวันนั้น ทุกท่านต่างตอบปัญหาเรื่อง “พระพุทธเจ้าสอนอะไร” ตามมุมมองของตนเองพร้อมทั้งแสดงคัมภีร์ที่ตนศึกษามา  สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ซึ่งมีการศึกษาแบบสากลเหมือนพุทธทั่วโลกที่ศึกษาทั้งบาลี  พระไตรปิฎก อรรถกถาและคัมภีร์อื่น จึงได้วิสัชนาในวันนั้นด้วยนาๆ คัมภีร์   ส่วนพระคึกฤทธิ์วิสัชนาด้วยพระสูตรเท่านั้น

ข้าพเจ้าดูคลิปนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่า ความรู้ท่านคึกฤทธิ์ช่างคับแคบนัก  รู้เพียงเฉพาะพระสูตร ในขณะที่คัมภีร์พระพุทธศาสนามีอยู่มากมายแต่ท่านก็ไม่ “รู้”  ข้าพเจ้าย้ำกับท่านคึกฤทธิ์เสมอว่า คัมภีร์มีไว้ให้ศึกษา ไม่ได้มีไว้ให้หาความจริง  ความจริงอยู่ในกายและใจของท่านมิใช่ในคัมภีร์

ข้าพเจ้าเข้าใจเอาเองจากกริยาในคลิปนั้นว่า  วิทยากรทุกท่านมีมารยาทมาก แม้จะเห็นว่าท่านคึกฤทธิ์มีความรู้น้อยแต่ก็ให้เกียรติมิได้ข่มวาทะท่านคึกฤทธิ์แต่อย่างใด  ใครจะนึกจะฝันว่า

วันหนึ่งท่านคึกฤทธิ์จะหันกลับมาแว้งกัดมหาจุฬาฯ  ด้วยการจาบจ้วงว่า มหาจุฬาไม่เรียนพุทธวจนะ  เรียนแต่อรรถกถา  อันไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้าหวังว่าจะได้เห็นความจริงนี้ที่เวทีท้องสนามหลวง

และเหตุการณ์จากการเสวนาในวันนั้น  ทำให้สาวกท่านคึกฤทธิ์รู้สึกว่า  ท่านคึกฤทธิ์เลิศที่สุด รู้มากที่สุด เพราะพูดแต่พุทธวจนะ  ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมากทีเดียว  คนที่รู้คัมภีร์มากจะมีความรู้น้อยกว่าคนที่รู้คัมภีร์น้อย ย่อมไม่ใช่ฐานะเลย

ท่านคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล  นอกจากไม่รู้คัมภีร์แล้ว ยังไม่รู้ว่าสิ่งใดเป็นกุศล สิ่งใดไม่เป็นกุศล  ต่อมายังเดินสายแสดงธรรมจาบจ้วงผู้อื่นอย่างมากมาย  แม้แต่มหาจุฬาที่เคยให้เวทีแสดงความคิด  ให้ยืมพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐก็ยังไม่เว้นที่จะแว้งกัดเอาได้


ข้าพเจ้าเฝ้ามองแนวคิดของพระคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล แล้ว ได้แต่สลดใจ  ท่านคึกฤทธิ์  โสตฺถิผโล จะมีมิตรแท้อีกสักแค่ไหนในโลกนี้  นอกจากสาวกที่หน้ามืดตามัว  เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจและบริสุทธิ์ปัญญาว่า  อาจารย์ตนและตนเท่านั้นที่ศึกษาคำพระตถาคต  อาจารย์ตนเท่านั้นที่เผยแผ่ธรรมพระตถาคต  อาจารย์ตนเท่านั้นที่พูดแต่คำพระพุทธเจ้าอันไพเราะ  โถ  น่าสงสาร  เขาเหล่านั้นลืมความจริงว่า  พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสเป็นภาษาไทย แต่สำนวนอันไพเราะที่เขาอ่านกันเป็นภาษาไทยนั้น  เกิดจากคนที่เขาว่าไม่รู้พุทธวจนะนั่นหล่ะที่แปลให้อ่าน 

ไม่มีความคิดเห็น: