วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เผาทิ้งทุพพจนะ การกระทำที่น่าอนุโมทนา





ข้าพเจ้าได้เคยอ่านบทความหนึ่งในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับการเผาทิ้งหนังสือของวัดนาป่าพง คือ หนังสือ พุทธวจน (พุด ทะ วะ จน) ทั้งชุด  ข้าพเจ้านึกถึงประเทศพม่า ที่ประเทศพม่านั้น จะมีการเรียนภาษาบาลีแบบชุดใหญ่ เรียกว่า “บาลีใหญ่” พระเณรของประเทศพม่าต้องศึกษาพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีด้วยวิชาบาลีใหญ่ เพราะตระหนักว่า ตนมิได้เกิดและเติบโตในยุคพุทธกาล ไม่ได้ใช้ภาษาบาลีเป็นภาษาแม่ ดังนั้น ผู้ทรงไตรปิฎกจึงต้องยกให้แก่ประเทศพม่า เรียกว่า พระไตรปิฎกธร  

สำหรับพระไตรปิฎกธรที่มีชื่อเสียง คือ พระอาจารย์ภัททันตะ วิจิตตะ สาราภิวังสะปฐมตริปิฏกะธร ตรีปิฎกโกวิทะ ตรีปิฎกะธรรมภัณฑาคาริกะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปฐมเมิงกุน สยาดอ เมืองสะกาย ท่านสามารถจำได้ทุกหน้าทุกบรรทัดราวกับเปิดข้อมูลจากคอมพิวเตอร์  ถึงขนาดที่ว่าหนังสือกินเนสส์บุ๊ก พ.ศ. ๒๕๒๘ ซึ่งตีพิมพ์ในสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้บันทึกความทรงจำที่น่ามหัศจรรย์ ของท่านไวว่า พระอาจารย์ใหญ่เมงกุนสียาดอ ประเทศพม่า มีความทรงจำท่องพระไตรปิฎก ๑๖,๐๐๐ หน้า (๒๔๐,๐๐๐ ตัวอักษร)ได้ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗(ค.ศ.๑๙๕๔) ซึ่งเป็นตัวอย่างของความทรงจำของมนุษย์ที่หาได้ยากมาก”  โปรแกรม E Tipitaka ของท่านคึกฤทธิ์ยังสู้ท่านไม่ได้  แล้วตัวท่านคึกฤทธิ์จะเอาอะไรมาเทียบเสมอชั้นท่านได้

พระพุทธเจ้ารับสั่งให้พระสาวกประกาศพรหมจรรย์ คือ ศาสนา ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ทั้งอรรถและพยัญชนะ  เอาแค่พยัญชนะพระคึกฤทธิ์ยังแปล “สกิเทว” ว่า เทวดาคราวเดียว  แปล อาคนฺตฺวา ว่า  ผู้มาเยือน  จะหวังพึ่งว่าอรรถะจะงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ดังที่ท่านคุยโม้ว่าตนเป็นผู้ประกาศพุทธวจนะของพระศาสดา ข้าพเจ้าคิดว่า “ไม่ใช่ฐานะ”


ท่านคึกฤทธิ์เที่ยวกล่าวติฉินนินทาการปฏิบัติโดยภาวนาต่างๆ ท่านจะไปเข้าใจอะไรในอรรถะของพระศาสดาเล่า ในเมื่อพยัญชนะท่านยังไปได้แค่ท้ายสวน

ในประเทศพม่า ผู้ที่จะกล่าวว่าตนเป็นผู้ประกาศพระสัทธรรมจะต้องศึกษาพระสัทธรรมโดยตรงจากภาษามคธ (บาลี) จนเข้าใจทั้งปริยัติและปฏิบัติจนเข้าใจจึงจะประกาศว่าตนเป็นผู้สอนธรรมได้  อย่างพระคึกฤทธิ์จึงเป็นได้แค่ผู้ศึกษาที่แบ่งปันบอกต่อเท่านั้น (แถมแบ่งปันยังผิดๆ อีก) ไม่อาจยกตนขึ้นประกาศว่าเป็นผู้เปิดธรรมที่ถูกปิดได้ดอก ข้าพเจ้าเกรงว่าท่านจะเป็นผู้ปิดธรรมที่พระศาสดาทรงเปิดไว้แล้วเสียมากกว่า ดังนั้น ถ้าหนังสือสอนธรรมในประเทศพม่า ถูกพบว่าสอนผิดๆ คนพม่าจะเผาหนังสือนั้นทิ้งทันที ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นหนอนบ่อนไส้พระศาสนา ระคายเคืองเบื้องพระบาทพระศาสดาและนำมาซึ่งความหลงผิดของประชาชน  การเผาพุทธวจน (พุด ทะ วะ จน) ที่ท่านเขียนขึ้นมา จึงเป็นเรื่องน่าอนุโมทนา ต้นไม้มีพิษย่อมผลิตลูกไม้ที่มีพิษ คำสอนที่ผิดไม่อาจจับใส่พระโอษฐ์พระศาสดาได้  เผาทิ้งอย่าให้เหลือซากเป็นรอยด่างแก่พระพุทธศาสนา ข้อนั้นจึงควร




ไม่มีความคิดเห็น: