สินค้าพุทธวจน
(พุด ทะ วะ จน) ดูเหมือนจะโด่งดังในโลกออนไลน์ด้วยการถามว่า “มีผ้าอนามัยและถุงยางอนามัยขายหรือยัง” แนวคิดนี้เกิดจากท่านเกษมแห่งวัดสามแยก
ทนพฤติกรรมของท่านคึกฤทธิ์ไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากและออกคลิปถามมา
ท่านคึกฤทธิ์ติเตียนพวกสร้างวัตถุมงคลแล้วนำออกบูชา
ซึ่งไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร มันก็คือ “ขาย” ตามกฎหมายนั่นเอง ข้าพเจ้าขอถามว่า
สินค้าของท่านคึกฤทธิ์ต่างจากสินค้าวัตถุมงคลตรงไหน ตรงปลุกเสกหรือ ?
ท่านทราบหรือไม่ว่า พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เป็นประธานในการสร้างวัตถุมงคลหลายครั้งหลายครา (จัดให้ในบทความหน้า)
ท่านทราบหรือไม่ว่า พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เป็นประธานในการสร้างวัตถุมงคลหลายครั้งหลายครา (จัดให้ในบทความหน้า)
วัตถุมงคลนั้นมีกฎหมายควบคุม
ถ้ากระทำโดยหลอกลวงประชาชน อวดอ้างฤทธิ์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เขาจับมาหลายรายแล้ว ท่านไปอยู่ที่ไหนมา นอกจากนั้น
วัตถุมงคลจะต้องเสียภาษีให้กับแผ่นดิน แล้วสินค้าพุทธวจนของท่านเสียภาษีหรือไม่อย่างไร
ทำไมไม่รายงานให้ประชาชนทราบ
ท่านเที่ยวติเตียนการทำน้ำมนต์ คนที่เขาเอาน้ำมนต์ไปบูชา
เขาไม่เอาน้ำมนต์ไปล้างเท้าแน่
แต่แก้วกาแฟพุทธวจน กล่องขนมเค้กพุทธวจน ของท่าน มีคนเอาไปบูชาหรือไม่
ใน
๑๓ พระสูตร ไม่พบคำว่า “อริยบุคคลไม่ทำเดรัจฉานวิชา” หรือ คำว่า “อริยบุคคลเว้นขาดจากเดรัจฉานวิชา”
เลย
ไหน
พุทธวจนะ นอกจากโลโก้ “พุทธวจน”
สินค้าส่วนใหญ่ของท่านไม่มีพุทธวจนะ
ยังไม่นับรวมวาทะกรรมที่บิดเบือนพุทธวจนะ ที่ติดเสื้อเดรัจฉานวิชา
พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสว่า อริยบุคคลไม่ทำเดรัจฉานวิชา ทรงตรัสว่า
ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภิกษุปุถุชนหรือภิกษุอริยะก็ไม่ทำเดรัจฉานวิชา
ข้าพเจ้านับคำดู ถ้าท่านใช้คำว่า ภิกษุไม่ทำเดรัจฉานวิชา ยังถูกต้องและแยบคายกว่า
เพราะพระอริยบุคคลอย่างหมอชีวกโกมารภัจจ์
ยังเป็นหมอปรุงยา หนึ่งในเดรัจฉานวิชาที่ท่านว่าเลย
คำว่าเดรัจฉานวิชาที่ท่านว่าแต่ละคลิป ไม่ได้แสดงถึงพยัญชนะที่ถูกต้อง
หรืออรรถที่ถูกต้อง แต่เป็นการว่าด้วย “อารมณ์” ส่วนตัวของท่านเอง
ขายแม้กระทั่งสติกเกอร์พุทธวจน ติดหน้าส้วม แต่เวลาเขาเผาหนังสือพุทธวจน (พุด ทะ วะ จน) ของท่าน สาวกของท่านด่าเขา ดิ้นและร้อนรนราวกะสุนัขบ้าโดนน้ำมนต์ ฉะนั้น
ขายแม้กระทั่งสติกเกอร์พุทธวจน ติดหน้าส้วม แต่เวลาเขาเผาหนังสือพุทธวจน (พุด ทะ วะ จน) ของท่าน สาวกของท่านด่าเขา ดิ้นและร้อนรนราวกะสุนัขบ้าโดนน้ำมนต์ ฉะนั้น
อย่างนี้ไม่เรียกว่า
“หากินกับคำพระศาสดา โดยหลอกลวงประชาชน” แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น