สาวกวัดนาป่าพง หมายเลขสมาชิก 145 นี้ เคยออกมาแสดงความคิดเห็นปกป้องพระคึกฤทธิ์
โสตฺถิผโล ในเรื่องที่ตนแปลบาลีผิดแต่กลับกล่าวหาว่า คนที่แปลพระไตรปิฎกบาลีแปลผิดกันทั่วประเทศ ต่อกรณีการแปล สกิเทว อันโด่งดัง
ติดตามอ่านรายละเอียดการปกป้องพระคึกฤทธิ์จนขาดสติของสมาชิกหมายเลขนี้ได้ที่
กระทู้
“พระคึกฤทธิ์โชว์ห่วย แปลบาลี สกิเทว”
มาถึงวันนี้ เมื่อมีผู้นำอรรถกถาอาการ ๓๒
และภาพการพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ไปแสดง สมาชิกหมายเลขดังกล่าว
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสาวกพระคึกฤทธิ์หรือผู้สนับสนุนพระคึกฤทธิ์ก็ตาม
ได้กล่าวใส่ความพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอรหันตสาวก อันพระผู้มีพระภาคตั้งแล้วในตำแหน่ง
พระธรรมเสนาบดี
และนี่คือพฤติกรรมของสาวกวัดนาป่าพงที่มีต่ออรรถกถา
ตามที่พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล อบรมสั่งสอนมาให้เหยียดหยามอรรถกถา
โดยไม่มีความรู้ในเรื่องชั้นของอรรถกถา อ่านอรรถกถาไม่เป็น วันนี้เลยเจอตอ
อริยุปวาทกรรมพระสารีบุตรจนได้ เห็นแล้วได้แต่เวทนา
การอ่านอรรถกถาจะต้องอ่านด้วยความรู้พื้นฐาน วางใจเป็นกลางโดยเข้าใจว่า
อรรถกถาเป็นเพียงคำอธิบายพุทธวจนะของพระศาสดาเท่านั้น การอ่านจึงต้องกระทำเพียง “อ่านเอาความรู้ ไม่ใช่อ่านเอาความจริง” เราไม่มีวันทราบความจริงในสิ่งที่เราไม่ได้รู้
ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินมาด้วยตัวเอง แม้แต่สิ่งที่เรารู้ เราเห็น
เราได้ยินมาด้วยตัวเองก็ยังอาจเป็นมายาได้เลย
ความจริงจึงอยู่ที่ “กายและใจ” ของเรา
พึงนำเอาความรู้จากคัมภีร์ไปหาความจริงในกายและใจของตัวเราเอง จะเป็นประโยชน์กว่า
การอ่านอรรถกถาพึงดูด้วยว่า “ใครเป็นผู้อรรถกถา” ในเรื่องนั้นๆ พึงศึกษาการแยกชั้นอรรถกถาให้ดี
สำหรับท่านคึกฤทธิ์
คงต้องนับว่าเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาและศาสนิกชนยิ่ง
เพราะสามารถทำให้สาวกก็ตาม
ผู้ซึ่งสนับสนุนก็ตาม
กล่าวอริยุปวาทกรรมพระอรรถกถาจารย์ในพุทธกาลได้โดยขาดสติ
ท่องเอาเพียงแต่ที่ท่านคึกฤทธิ์สอนว่า “อรรถกถาคือคำแต่งใหม่ ไม่ต้องไปสนใจ” “คำสาวกอย่าไปฟัง ฟังแต่คำพระตถาคตเท่านั้น” ส่วนสาวกของท่านคึกฤทธิ์
กลับทำตามคำสาวกอย่างท่านคึกฤทธิ์กันเป็นทิวแถวเทียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น