สถานการณ์ ณ วันที่
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
กำลังรอมติ มส. พิจารณากรณีพระธัมมชโยถือเอาทรัพย์ที่เขาไม่ได้ให้ตั้งแต่ ๕
มาสก ขึ้นไป
ทำให้ข้าพเจ้านึกขึ้นได้ว่า ๕
มาสกนี่ถ้าถามชาวพุทธวจน วัดนาป่าพง เขาจะตอบว่าอย่างไรหนอ เพราะเขาพูดไว้หนักแน่นว่า เขาถือเอาเฉพาะพุทธวจนะที่มีคำขึ้นต้นว่า “ดูกร..”
เท่านั้น
ในเรื่องค่าเงินหน่วยนับเป็นมาสกนี้
เป็นหน่วยนับเงินของอินเดียในสมัยพุทธกาล
ซึ่งในพุทธกาลยังไม่มีเงินบาทให้เทียบกันเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น
จึงไม่มีดอกว่าพระผู้มีพระภาคจะอธิบายไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตบัญญัติ ๕ มาสก
เท่ากับ.....บาทไทย” แล้วเขาจะเอาอะไรมาตอบ
การวินิจฉัยเทียบราคาทรัพย์ ๕ มาสกนี้ (พระบาลีใช้ศัพท์ว่า ปญฺจมาสกํ) เราถือเอาตามอรรถกถาหรือตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกในส่วนที่พระคึกฤทธิ์และพวกเรียกว่า
“คำสาวก”
โดยในพระวินัยปิฎก มหาวังค์ ภาค ๑ เล่ม ๑
หน้า ๒๔๑ ข้อ ๘๓ (ฉบับหลวง)
บันทึกไว้ว่า
“ภิกษุรูปนั้นกราบทูลว่า
เพราะทรัพย์บาทหนึ่งบ้าง เพราะของควรค่าบาทหนึ่งบ้าง เกิน บาทหนึ่งบ้าง
พระพุทธเจ้าข้า
แท้จริงสมัยนั้น ทรัพย์ ๕ มาสกในกรุงราชคฤห์
เป็นหนึ่งบาท” ซึ่งการอธิบาย ๕
มาสกเท่ากับ ๑ บาท นี้เป็นการอธิบายโดย “คำสาวก”
ซึ่งในสมัยที่มีการแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทย อาจจะเป็นไปได้ว่า
ผู้แปลได้ดูการเทียบค่าเงินจากอรรถกถาและฎีกา
โดยอรรถกถาและฎีกาเทียบมูลค่ามาสกจากราคาทอง วิธีการคือ นำข้าวสาร ๒๐
เมล็ดมาชั่งน้ำหนักกับทอง ข้าวสาร ๒๐
เมล็ดมีน้ำหนักเท่ากับทองกี่กรัมก็เอาน้ำหนักนั้นไปคำนวนด้วยราคาเงินบาท ในสมัยที่มีการแปลพระไตรปิฎกข้อนี้ ราคาทองอาจจะแค่บาทละ ๑๐๐ หรือ ๒๐๐ บาท
ดังนั้น ๕
มาสกจึงมีค่าเท่ากับทองราคา ๑ บาท
ก็เป็นไปได้
วัดนาป่าพงจึงไม่ควรยกสาวกภาษิตนี้มาตอบเรื่อง ๕ มาสก
แต่พึงนำพุทธวจนะที่ทรงอธิบายเรื่อง
๕ มาสกมาแสดงเถิด
ให้สมกับที่พวกท่านชูประเด็น
จุดเด่นว่า
ตนเอาแต่พุทธวจนะเท่านั้น ไม่เอาอรรถกถา
คำครูบาอาจารย์ หรือคำแต่งใหม่ใดๆ
ทั้งสิ้น
ถ้าไม่ใช้หลักการเทียบตามนัยอรรถกถา จะเกิดปัญหาอีกว่า ๕ มาสกสำหรับค่าเงินพม่า ค่าเงินลาว ค่าเงินศรีลังกา ฯลฯ จะเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกันตามที่พระอรรถกถาจารย์ท่านวางหลักไว้ให้ ไม่ว่ายุคสมัยใด ค่าเงินประเทศไหน ก็จะไม่มีปัญหาในการวินิจฉัยเลย
ถ้าไม่ใช้หลักการเทียบตามนัยอรรถกถา จะเกิดปัญหาอีกว่า ๕ มาสกสำหรับค่าเงินพม่า ค่าเงินลาว ค่าเงินศรีลังกา ฯลฯ จะเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกันตามที่พระอรรถกถาจารย์ท่านวางหลักไว้ให้ ไม่ว่ายุคสมัยใด ค่าเงินประเทศไหน ก็จะไม่มีปัญหาในการวินิจฉัยเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น